วันพฤหัสบดีที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2555

เริ่มฝากท้องเมื่อไหร่ดี? ตอนกี่เดือน?

           มีหลากหลายคำแนะนำจากคนรอบข้าง  มาให้เราปวดหัวกันเล่นอีกแล้วครับ  กับคำถามที่ว่า คุณเมียควรจะเริ่มต้นฝากท้องเมื่อไหร่ดี?   บ้างก็แนะนำ  รอสามเดือนไว้ค่อยไปก็ได้  บ้างก็บอกว่าถ้าแม่แข็งแรงดีก็ไม่จำเป็นต้องไปฝากหรอก  รอไปตอนคลอดเลยทีเดียว สมัยก่อนก็ไม่ได้มีการฝากกันก็คลอดได้นี่ บางท่านอาจจะบอกว่า เออ เจอมาจริงๆ ด้วย  แล้วควรตัดสินใจอย่างไรดีละ?

          ถึงผมจะไม่ใช่หมอ  แต่ก็ขอแนะนำให้ไปครับ  อย่างเราเล่นฟิตเนส  อยากมีเน้นกล้ามขึ้นตรงไหน  ยังต้องมีเทรนเนอร์คอยช่วยแนะนำเลย  ถ้ามีหมอเราก็จะได้คำแนะนำดีๆ ด้วยเช่นกัน  และผมก็สังเกตุว่าคนส่วนใหญ่ก็จะพากันไปฝากท้องตั้งแต่รู้ว่าเริ่มท้องกันเลย  เพราะในช่วงสามเดือนแรกหมอจะจ่ายยามาสองชนิดที่แทบจะเรียกว่า จำเป็นสุดๆ กับเมียและลูกเราเลยละครับ นั่นคือ แคลเซี่ยม และโฟเลต  อันแรกช่วยเรื่องการดึงแคลเซี่ยมที่ไปสร้างกระดูกของตัวอ่อน  และโฟเลตจะมีส่วนจำเป็นสำหรับการสร้างเซล   ฟังดูเป็นวิชาการไปหน่อยละ ที่เหลือไปถามคุณหมอต่อแล้วกันครับ  แต่บอกไว้ก่อนว่าถ้าขาดอาจจะมีปัญหากับลูกได้นะครับ

         และเมื่อไหร่ดี?  ใบ้ไปหน่อยหนึ่งก่อนหน้าแล้วว่า ควรไปทันทีที่รู้ว่าท้องครับ  และจะมีเป็นแพ็คเกจให้เลือกเลยครับ  โดยขั้นต้นจะเป็นการตรวจเลือดคุณพ่อด้วย  ว่ามีเชื้อพาหะหรือโรคอะไรหรือเปล่าที่จะมีผลต่อการตั้งครรภ์  โดยคุณหมอจะอธิบายละเอียดครับตรงนี้  แต่ถ้าคุณระแวงว่าจะเป็นอะไรจริงๆ ก็ลองปรึกษาคุณหมอครับ 

         เวลาอันตื่นเต้นของการเป็นครอบครัวเริ่มขึ้นแล้วสิ ณ บัดนี้ 

    

วันเสาร์ที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2555

วางแผนการใช้เงินเพื่อคลอดลูก

     แน่นอนว่า  ตอนนี้ทุกคนยังคงอยู่ในบรรยากาศแห่งความปลาบปลื้มครับ  ทันทีที่คุณกระจายข่าวออกไปว่า 'เมียผมท้อง' บรรดาญาติมิตร และเพื่อนฝูงก็จะคอยร่วมแสดงความยินดีกันไม่ขาดสาย  เผลอๆ ชวนคุณไปดริ๊งฉลองกันทุกวันเลยละ  แต่อ๊ะ เดี๋ยวก่อน อย่าเพิ่งกระหน่ำไปนะครับ คิดถึงอนาคตกันหน่อย  เตรียมเก็บเงินเก็บทองเตรียมไว้ตอนคลอดด้วยครับ 

    ที่บอกแบบนี้ก็เพราะ  'พ่อ' บางท่านอาจจะยังไม่ได้วางแผนเรื่องนี้ดีเท่าไหร่  เพื่อนสนิทผมคนหนึ่ง แต่งรถทีละหลายหมื่น แต่เงินจะมาใช้  สวีทกับแฟนแค่หลักร้อย  ทำมาเป็นเสียดาย และยิ่งเรื่องลูกแล้ว โอ้โห เสื้อผ้าที่ใส่อย่างกับขอบริจาคมา  ผมอยากให้เราใส่ใจลูกด้วยครับ โดยเตรียมตัวตั้งแต่ตอนนี้เลย

     นี่จึงเป็นที่มาของเรื่องการวางแผนการเงินครับ   ช่วงที่เมียท้องมีเรื่องจำเป็นที่ต้องจ่ายแน่นอนตายตัวคือ 'การฝากท้อง'  โดยค่าใช้จ่ายจะขึ้นอยู่กับโรงพยาบาลที่เลือกครับ  ถ้าเอกชนก็จะอยู่ที่ประมาณ  7,000-10,000 บาท  ส่วนของรัฐบาลก็จะถูกลงมา แต่โดยส่วนตัว ผมจะเลือกเอกชน  เพราะหลบเลี่ยงคิวที่ยาวนั่นเอง  แต่ถ้าเป็นการนัดพบแพทย์ของรัฐก็จะไม่ค่อยยาวแล้วละครับ  แต่ทุกที่ก็จะมีค่าอื่นๆ ที่ต้องจ่ายเพิ่มประปราย  เช่น ค่าตรวจหาเบาหวานของคุณแม่  ภาวะครรภ์เป็นพิษ  เป็นต้น  โดยถ้ามีการตรวจหรือรักษา ก็ต้องจ่ายเพิ่ม  เพราะไม่ได้รวมในแพ็คเกจฝากครรภ์ครับ  

          สำหรับค่าคลอด  ก็จะมีมาเป็นแพ็คเกจให้เลือกเหมือนกัน  ฟังๆ ดูเหมือนโปรโทรศัพท์เลยเนาะ  โดยจะมีให้เลือกตั้งแต่ว่าจะคลอดแบบไหน ธรรมชาติหรือพิเศษ (ผ่าคลอด)  เลือกว่าจะอยู่โรงพยาบาลกี่วัน ก็มีให้เลือกครับ  ค่าใช้จ่ายจะอยู่ตั้งแต่ 20,xxx  ไปจนถึง 50,xxx บาท เลย

      ระหว่างช่วงเก้าเดือนนี้  คุณต้องบำรุงคุณแม่ด้วยนะครับ  โดยจะต้องดื่มนม  เพื่อไปทดแทนแคลเซี่ยมที่ถูกดึงมาสร้างกระดูกให้กับลูกในท้องด้วย  ไม่เช่นนั้นแก่ตัวไปจะเป็นโรคกระดูกพรุนได้  ยังไม่รวมถึงอาหารที่ต้องมีประโยชน์ด้วยนะครับ  

    จะเห็นว่าค่าใช่จ่ายที่เพิ่มขึ้นมาช่วงนี้  อาจจะเกือบแสนเลยทีเดียว  ฉะนั้น วางแผนให้ดีๆ นะครับ เพราะเดี๋ยวจะแสนสาหัส  เงินทองไม่พอใช้  ลด ละ เลิก งานสังสรรค์ ให้น้อยลง  ค่าใช้จ่ายด้านอื่นก็ลดบ้าง  เพื่อลูกของเราครับ  สู้ๆ ครับ คุณพ่อทุกท่าน

   

วันศุกร์ที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2555

ว่าที่คุณพ่อกับภาระหน้าที่ใหม่

             ถ้าจะบอกว่า  ให้คุณเพิ่มความรับผิดชอบ  ทำงานบ้านทุกอย่างแทนเมีย  เริ่มตั้งแต่  กวาดบ้าน ถูบ้าน  ล้างจาน  ซักผ้า  ไปตลาด  คุณจะรับไหวไหม?  บางคนอาจจะบอกว่า 'คนท้องก็ยังทำได้นี่'  แหม  อันนี้ผมก็แซวเล่นครับ  ถ้าให้ทำภาระทั้งหมดที่อ้างข้างต้น  คงมีพ่อบางคนเป็นลมกันเลย  เพราะก่อนหน้าไม่เคยจับงานพวกนี้มาก่อน  ก็แน่สิ  เพราะเมียทำให้มาตลอดนี่นา

            แต่ตอนนี้  คุณจะต้องช่วยแบ่งเบาแล้วละครับ  ผมไม่ได้เขียนเอาใจเมีย หรือเป็นประเภทกลัวเมียนะครับ (แต่ก็เกรงใจนะ อิอิ)  แต่ผมอยากให้เราแสดงหน้าที่ลูกผู้ชายตัวจริงด้วย  อาจจะไม่ได้ทำทั้งหมด  แต่ก็ให้ทำบ้าง  เมียรักตายเลยละครับ  สำหรับคนที่ทำอยู่แล้วประจำ  ก็สบายไป  เพราะไม่ต้องมาปรับตัวอะไรมากมาย  แต่คนที่ไม่เคยนี่แหละ  จะทำอย่างไร

          ขอเสนอว่าคุณควรเลือกงานหนัก  หนักในที่นี่คือหนักประเภทออกแรงครับ  เช่น ซักผ้า  จะให้เมียไปก้มๆ เงยๆ ยกถังผ้าหนักอึ้ง  ก็ไม่ไหวนะครับ  ดีไม่ดีอาจจะลื่นได้ง่ายด้วย  คุณอาสาไปเลยครับว่าจะทำให้  อาจจะให้เมียมาช่วยกันตากก็ได้ไม่ว่ากัน  และช่วงท้องนี่  งานแบกหาม ยก ลาก นี่คุณจะต้องออกหน้าก่อนนะครับ  ห้ามคนท้องยกของหนักโดยเด็ดขาดครับ

      งานประเภทเสี่ยงอื่นๆ ก็ควรระวังครับ  เช่น  การปีนป่ายไปหยิบของ  คุณจะต้องทำด้วย  ถ้าหลอดไฟเสียไม่ติดแล้วคุณยังไม่ถึงบ้าน  บอกเมียไว้เลยว่า 'ห้ามปีนไปเปลี่ยนเอง' ให้รอคุณมาเปลี่ยนให้ครับ  จะเห็นได้ว่า  เราควรจะต้องระวัง  แม้กระทั่งเรื่องที่เล็กๆ น้อยๆ มากจริงๆ ครับ  ตอนผมพาเมียไปฝากท้อง  หมอบอกว่า  "ช่วงที่ควรระวังมากที่สุดคือ ช่วงสามเดือนแรกครับ  เพราะตัวอ่อนอาจจะยังเกาะไม่ดี " พูดมาเยอะแล้ว  ไปจับไม้ถูพื้นถูบ้านได้เลยครับ  สวัสดีครับ 

       

      

        

"ลูก" ของขวัญจากพระเจ้า

        
         คุณพ่อครับ!!  ขอแสดงความยินดีล่วงหน้ากับทุกท่าน  ที่กำลังจะมีลูกครับ!!   'ลูก' คำเรียกสั้นๆ  ถือว่าเป็นของขวัญที่พระเจ้าประทานให้กับเราเลย  อีกไม่นานจากนี้ก็จะมีเสียง 'อุแว๊ๆๆ' มากรอกหูกันทุกคืน  และจะได้ยินวันละหลายๆ ครั้งครับ  

         จากตรงนี้เอง  คนที่จะเริ่มมีบทเด่นที่สุดในบ้านช่วงนี้  ก็คงไม่ใช่ใครที่ไหน คนนั้นก็คือ 'คุณเมีย' ของเรานี่แหละครับ

      เพราะคุณเมีย หรือว่าที่คุณแม่จะเป็นคนรับบทหนักที่สุด ก็แน่นอนละครับ เพราะเราไม่ได้อุ้มท้องเองนี่นา  ดังนั้นทุกคน ไม่ว่าจะเป็น 'ว่าที่' คุณปู่  คุณย่า คุณตา  คุณยาย ลุง  ป้า  น้า  อาฯลฯ  ต่างก็จะมาให้ความสนใจกับคุณเมียเรามากขึ้น  เสมือนอยู่ในแสงสปอร์ตไลต์  และเขาเหล่านั้นพยายามจะให้คำแนะนำ  เพื่ออยากให้คุณทำทุกอย่างจนคุณหัวหมุนเลยละครับ  จากนี้ก็จะได้ยินทฤษฎีต่างๆ ทั้งที่อาจจะเคยรู้หรือไม่รู้มาสู่คลังสมองอันมากมาย  แต่ผมแนะนำให้รับฟังทั้งหมดจากญาติพี่น้องก่อน  หากรู้สึกขัดแย้งก็อย่างเพิ่งไปขัดนะครับ

       เอาง่ายๆ คือว่า   คุณจะได้รู้และได้ยินคำสอนตั้งแต่สมัยโบราณ  ยันยุคอวกาศกันเลยทีเดียว  เคยได้ยินไหมละครับว่า 'ให้คุณนอนลงแล้วให้เมียเดินข้ามตัวเพื่อไม่ให้แพ้ท้อง'    ผมเองเจอมาแล้ว  และยังมีมาอีกมายมายจากคนที่มีประสบการณ์ที่แตกต่างกันไป  ตรงนี้ก็แล้วแต่การนำไปปรับประยุกต์ใช้ของแต่ละบ้านแล้วกันนะครับ

      สำหรับคำแนะนำของผมก็คือ คุณจะต้องคุยกับคุณเมียก่อน ว่าตกลง เราสองคนจะมีวิธีการประคับประคอง และดูแลครรภ์ไปจนคลอดแบบไหน  เพราะการที่มีคนแนะนำมาเยอะๆ ก็ถือว่าเป็นการดี  ที่คนเหล่านั้นเป็นห่วงเป็นใยเราทั้งสองคน  แต่ท้ายที่สุด ก็เหลือแค่ 'เรา' นี่แหละ  ที่ต้องคอยดูแลกันและกัน  เพื่อเจ้าตัวน้อยจะได้เกิดออกมาแข็งแรง ปลอดภัย

     จะว่าไป 'พ่อ' อย่างเรา  ดูเหมือนจะไม่ซีเรียสเท่าไหร่  นอกจากจะขอให้เขาเกิดมาครบ 32 ประการก็พอใจแล้ว  แต่เมียเรา  ซีเรียสกว่านั้นหลายเท่าครับ  บอกได้เลย  เธอจะห่วงเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ตั้งแต่เรื่องอาหารการกิน  สภาพร่างกายจิตใจ  รวมไปถึงสิ่งแวดล้อมรอบกาย และยิ่งถ้าคุณชอบสูบบุหรี่แล้วก็เชิญไปไกลๆ เลยนะครับ  เธอจะกังวลจริงๆ ต่อไปก็จะเป็นเรื่องการเลือกของใช้  เช่นรองเท้าก็อาจจะเป็นรองเท้าแบบไม่มีส้นที่สูง  ณ ช่วงเวลาเช่นนี้ เป็นเวลาที่หาได้ยากครับ  อยากให้คุณทั้งสามคนได้ใช้เวลาให้ใกล้ชิดกันมากๆ  ดูแลเมียดีๆ นะครับ  เพราะถ้าเมื่อจิตใจมีความสุข  ก็จะส่งผลต่อลูกที่่อยู่ในท้องด้วยครับ

       ชอบกดไลค์  ใช่กดแชร์กันด้วยนะครับ  ติดตามอ่านกันในเรื่องต่อไปครับ

ยินดีต้อนรับว่าทีคุณพ่อป้ายแดงทุกท่าน

   
       ขอต้อนรับ  'ว่าที่คุณพ่อทุกท่าน'  สู่โลกใหม่    โดยนับจากนี้เป็นต้นไป  ท่านจะไม่ได้มีกันแค่สองคนกับคุณแม่อีกต่อไป  แต่กำลังจะมีเด็กตัวน้อยๆ มาเป็นสมาชิกคนใหม่อีกคนในครอบครัวนั่นเอง  โลกใหม่ของคุณที่ว่านี้  จะเริ่มขึ้นตั้งแต่การปรับตัวให้เข้ากับคุณแม่เลยละครับ ซึ่งจะมีทั้งด้านอารมณ์และความคิดบางอย่างที่เปลี่ยนไป และว่าที่คุณแม่บางท่านอาจจะมีอาการแพ้สามีกันเลยก็ได้ 

        ผมในฐานะที่  เคยผ่านการเป็นพ่อมือใหม่ป้ายแดงมาก่อน จะพยายามนำเสนอเรื่องราวที่น่าสนใจ  เกี่ยวกับเรื่อง  ตั้งแต่ตั้งครรภ์ ไปจนถึงวันลูกเกิดมา  และการเลี้ยงดูเบื้องต้น  โดยการรวบรวมข้อมูลจากประสบการณ์ตัวเองและเพื่อนๆ ที่สนิท เพื่อเป็นประโยชน์ให้กัับท่านมากที่สุดครับ

       ณ ตอนนี้  ไม่ว่า ว่าที่คุณพ่อจะพร้อม  หรือไม่พร้อมที่จะมีเจ้าตัวเล็ก ผมขอบอกว่า 'ไม่มีเวลาคิดแล้วละครับ'  สิ่งที่ต้องทำก็คือ ให้คิดว่า  'ทำอย่างไรลูกของเรา ที่่กำลังจะเกิดมานั้น จะเป็นเด็กที่สมบูรณ์ เติบโตและเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพของสังคมต่อไป'  

       ผมเชื่อว่าทุกคนอยากเห็นเด็กไทย  เป็นเด็กที่มีคุณภาพ  และได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม  เริ่มตั้งแต่การตั้งท้องของภรรยาเลยครับ  ดังนั้น ตัวคุณเองจะเป็นคนที่จะให้กำลังใจเธอ และอยู่เคียงข้างเธอให้มากที่สุด โดยผมจะเน้นในมุมมองของ 'พ่อ' นะครับ  โดยหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ถ้าคุณได้มาอ่านแล้ว  คุณจะ 'รักเมีย' มากขึ้น และที่สำคัญคุณจะรักคนที่กำลังรอคอยให้ออกมาลืมตาดูโลกในอีกไม่นาน

         เชิญติดตามอ่านได้เลยครับ