วันเสาร์ที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2555

วางแผนการใช้เงินเพื่อคลอดลูก

     แน่นอนว่า  ตอนนี้ทุกคนยังคงอยู่ในบรรยากาศแห่งความปลาบปลื้มครับ  ทันทีที่คุณกระจายข่าวออกไปว่า 'เมียผมท้อง' บรรดาญาติมิตร และเพื่อนฝูงก็จะคอยร่วมแสดงความยินดีกันไม่ขาดสาย  เผลอๆ ชวนคุณไปดริ๊งฉลองกันทุกวันเลยละ  แต่อ๊ะ เดี๋ยวก่อน อย่าเพิ่งกระหน่ำไปนะครับ คิดถึงอนาคตกันหน่อย  เตรียมเก็บเงินเก็บทองเตรียมไว้ตอนคลอดด้วยครับ 

    ที่บอกแบบนี้ก็เพราะ  'พ่อ' บางท่านอาจจะยังไม่ได้วางแผนเรื่องนี้ดีเท่าไหร่  เพื่อนสนิทผมคนหนึ่ง แต่งรถทีละหลายหมื่น แต่เงินจะมาใช้  สวีทกับแฟนแค่หลักร้อย  ทำมาเป็นเสียดาย และยิ่งเรื่องลูกแล้ว โอ้โห เสื้อผ้าที่ใส่อย่างกับขอบริจาคมา  ผมอยากให้เราใส่ใจลูกด้วยครับ โดยเตรียมตัวตั้งแต่ตอนนี้เลย

     นี่จึงเป็นที่มาของเรื่องการวางแผนการเงินครับ   ช่วงที่เมียท้องมีเรื่องจำเป็นที่ต้องจ่ายแน่นอนตายตัวคือ 'การฝากท้อง'  โดยค่าใช้จ่ายจะขึ้นอยู่กับโรงพยาบาลที่เลือกครับ  ถ้าเอกชนก็จะอยู่ที่ประมาณ  7,000-10,000 บาท  ส่วนของรัฐบาลก็จะถูกลงมา แต่โดยส่วนตัว ผมจะเลือกเอกชน  เพราะหลบเลี่ยงคิวที่ยาวนั่นเอง  แต่ถ้าเป็นการนัดพบแพทย์ของรัฐก็จะไม่ค่อยยาวแล้วละครับ  แต่ทุกที่ก็จะมีค่าอื่นๆ ที่ต้องจ่ายเพิ่มประปราย  เช่น ค่าตรวจหาเบาหวานของคุณแม่  ภาวะครรภ์เป็นพิษ  เป็นต้น  โดยถ้ามีการตรวจหรือรักษา ก็ต้องจ่ายเพิ่ม  เพราะไม่ได้รวมในแพ็คเกจฝากครรภ์ครับ  

          สำหรับค่าคลอด  ก็จะมีมาเป็นแพ็คเกจให้เลือกเหมือนกัน  ฟังๆ ดูเหมือนโปรโทรศัพท์เลยเนาะ  โดยจะมีให้เลือกตั้งแต่ว่าจะคลอดแบบไหน ธรรมชาติหรือพิเศษ (ผ่าคลอด)  เลือกว่าจะอยู่โรงพยาบาลกี่วัน ก็มีให้เลือกครับ  ค่าใช้จ่ายจะอยู่ตั้งแต่ 20,xxx  ไปจนถึง 50,xxx บาท เลย

      ระหว่างช่วงเก้าเดือนนี้  คุณต้องบำรุงคุณแม่ด้วยนะครับ  โดยจะต้องดื่มนม  เพื่อไปทดแทนแคลเซี่ยมที่ถูกดึงมาสร้างกระดูกให้กับลูกในท้องด้วย  ไม่เช่นนั้นแก่ตัวไปจะเป็นโรคกระดูกพรุนได้  ยังไม่รวมถึงอาหารที่ต้องมีประโยชน์ด้วยนะครับ  

    จะเห็นว่าค่าใช่จ่ายที่เพิ่มขึ้นมาช่วงนี้  อาจจะเกือบแสนเลยทีเดียว  ฉะนั้น วางแผนให้ดีๆ นะครับ เพราะเดี๋ยวจะแสนสาหัส  เงินทองไม่พอใช้  ลด ละ เลิก งานสังสรรค์ ให้น้อยลง  ค่าใช้จ่ายด้านอื่นก็ลดบ้าง  เพื่อลูกของเราครับ  สู้ๆ ครับ คุณพ่อทุกท่าน